“ผมได้เล่นเป็นพระมหาชนก ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของในหลวง นับเป็นความภาคภูมิใจ ถือเป็นมงคลชีวิต ถือเป็นบุญชีวิตสำหรับผม และสำหรับคนรอบข้างผมครับ...” ครั้งหนึ่ง ปอ ทฤษฎี ได้กล่าวถึงผลงานการแสดงอันทรงเกียรติ
แม้วันนี้วงการบันเทิงไทยจะไร้ซึ่งพระเอกภูธร ผู้จากไปชั่วนิรันดร์ แต่ชายผู้นี้ยังคงทิ้งไว้ซึ่งผลงานอันทรงเกียรติ ทิ้งไว้ซึ่งความดี ทิ้งไว้ซึ่งวิถีชีวิตอันควรค่าแก่การเป็นแบบอย่างของสังคมไทย โดยวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับนายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ในฐานะผู้จัดการแสดงพระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์โชว์ แคทรียา อิงลิช และญาณี ตราโมท หนึ่งในนักแสดงกลางน้ำ ถึงเรื่องราวสุดประทับใจที่มีต่อ ปอ ทฤษฎี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “พระเอกผู้ทุ่มเทอย่างหาใครเปรียบมิได้”...
ปอ ทฤษฎี รับบทเป็น พระมหาชนก
ละครเวทีพระมหาชนก ที่พระเอกหนุ่ม "ปอ-ทฤษฎี" ทุ่มเทมาก
วินิจ เลิศรัตนชัย นักธุรกิจชื่อดัง กล่าวถึงพระเอกคนดังผู้ล่วงลับว่า ตนมีโอกาสได้รู้จัก ปอ ทฤษฎี ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2557 ก่อนที่การแสดงพระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์ จะเริ่มโชว์ในเดือนธันวาคม ซึ่งมีบริษัท ดรีมบอกซ์ เป็นผู้เสนอรายชื่อดาราชายท่านต่างๆ มาให้ เพื่อที่จะให้ตนได้คัดเลือกตัวละครผู้รับบทบาทพระมหาชนก อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“ตอนแรก ผมและทีมงานตัดสินใจที่จะไม่เลือกปอให้รับบทพระมหาชนก เนื่องจากผู้ที่จะได้รับบทบาทนี้ต้องใส่อุปกรณ์สลิงซ่อนไว้ภายในเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดังนั้น ช่วงตัวของนักแสดงจะมีขนาดตัวใหญ่กว่าปกติ บวกกับระบบเซฟตี้ (safety) ของสลิง สามารถรับน้ำหนักได้เฉพาะที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงเป็นผลให้สเปกของผู้ที่จะมารับบทพระมหาชนก ต้องมีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งสวนทางกับขนาดตัวของปอที่ค่อนข้างใหญ่ แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยความที่ผมและทีมงานทุกคนเล็งเห็นถึงความพยายาม ความตั้งใจ และจิตวิญญาณความสมจริงสมจังของปอ ซึ่งโดดเด่นกว่าผู้ที่มาแคสท่านอื่นๆ พวกเราจึงเลือก ปอ ทฤษฎี อย่างไม่มีข้อแม้” วินิจ เลิศรัตนชัย หัวเรือใหญ่จัดการแสดงพระมหาชนก กล่าวถึงอดีตเพื่อนร่วมงานผู้ล่วงลับ
วินิจ ยังเล่าถึงเบื้องหลังการแสดงเฉลิมพระเกียรติปลายปี 2557 ซึ่งเขาจดจำได้อย่างแม่นยำว่า ภายหลังจากที่เขาเลือก ปอ ทฤษฎี ให้สวมบทบาทพระมหาชนก เขาและทีมงานตัดสินใจปรับเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของสลิง เพื่อใช้รองรับ ปอ ทฤษฎี โดยเฉพาะ และด้วยความที่ทางทีมงานเป็นห่วงในความปลอดภัยของพระเอกหนุ่ม จึงเสนอให้ ปอ ทฤษฎี ใช้นักแสดงแทนในฉากที่ต้องใช้สลิง แต่ ปอ ทฤษฎี กลับปฏิเสธเสียงแข็งว่า เขาจะแสดงด้วยตนเองทุกฉากตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แม้ชีวิตของเขาจะต้องแขวนอยู่บนลวดสลิงก็ตาม
“วินิจ เลิศรัตนชัย” ในฐานะผู้จัดละครเวทีพระมหาชนก มอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวสหวงษ์
“วินิจ เลิศรัตนชัย” และทีมงานละครเวทีพระมหาชนก ได้มีโอกาสไปให้กำลังใจพระเอกหนุ่ม "ปอ-ทฤษฎี"
วินิจ เลิศรัตนชัย ย้อนเล่าไปเหตุการณ์ทรหดเมื่อครั้งที่ ปอ ทฤษฎี รับบทบาทพระมหาชนกว่า ในวันงานการแสดงค่ำคืนที่ 2 สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกลับบังเกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ และนั่นก็คือ "ฝนตก" ซึ่งฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมาราวกับเลือกไว้แล้วว่า จะตกลงมาในช่วงฉากใดของการแสดง
“จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาโครมใหญ่ ในฉากที่พระมหาชนกเจอลมพายุอยู่กลางทะเลพอดี และบวกกับจอภาพด้านหลังกำลังเป็นภาพเคลื่อนไหวฝนตก จึงทำให้ผู้ชม นักแสดงทุกคน รวมทั้งปอ ทฤษฎีเข้าใจว่า ฝนที่กำลังตกอยู่นั้นเป็นสเปเชียลเอฟเฟกต์ และเมื่อฉากพระมหาชนกเจอพายุจบลง ฝนก็หยุดตกอย่างได้จังหวะเหมาะเจาะราวกับปาฏิหาริย์” วินิจ เล่าถึงสิ่งที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น
นักแสดงละครเวทีพระมหาชนกร่วมถ่ายภาพหมู่
พระเอกหนุ่ม "ปอ-ทฤษฎี" ถ่ายภาพร่วมกับผู้ชมละครเวทีพระมหาชนก
วินิจ กล่าวถึงการแสดงของปอในช่วงที่ฝนตกว่า เมื่อการแสดงจบลง ปอ ทฤษฎี เดินมาหาตน พร้อมกับพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “พี่วินิจเล่นผมหรือนี่ ใส่ฝนเพิ่มไม่บอกผมเลยนะ (ปอพูดพลางหัวเราะดังลั่น)” ซึ่งทางตนได้ตอบกลับปอไปด้วยความเหลือเชื่อว่า ทางทีมงานไม่ได้เพิ่มสเปเชียลเอฟเฟกต์แต่อย่างใด ฝนที่ปอเห็นนั้นเป็นของจริงล้วนๆ
“สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นจากเหตุการณ์นี้ก็คือ คุณปอเป็นดาราที่ทีความตั้งใจจริง อดทน มีสปิริตสมกับที่ได้รับบทบาทสำคัญ ไม่ว่าฝนตกหนักแค่ไหน ต้องว่ายน้ำเปียกปอนเท่าไร โหนสลิงเสียวแค่ไหน อุปสรรคเหล่านี้ที่คุณปอต้องเจอ หากเป็นคนอื่นอาจถอดใจ แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ เขาสู้ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว”วินิจ ขาใหญ่วงการจัดคอนเสิร์ตกล่าวถึงพระเอกในตำนาน
นักแสดงละครเวทีเรื่องพระมหาชนก ขอบคุณผู้ชม
นักแสดงละครเวทีเรื่องพระมหาชนกถ่ายภาพร่วมกับผู้ชม
ด้วยความอุตสาหะของ ปอ ทฤษฎี และทีมงานผู้สร้าง จึงเป็นผลให้ พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ event of the year จากสถาบัน AFECA award ซึ่งเป็นเวทีที่มีผู้ส่งผลงานเข้ามาประกวดมากมายหลายพันชิ้น โดย วินิจ หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่จัดการแสดง กล่าวกับทีมข่าวว่า ทันทีที่ทราบว่าพระมหาชนกได้รับรางวัล ตนตัดสินใจเดินทางไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อไปบอกข่าวอันน่าตื้นตันให้แก่ปอได้ทราบ ซึ่งตอนนั้นปอกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และเมื่อเดินทางไปถึง ทางตนจึงแจ้งข่าวกับคุณพ่อของปอ และอาน้ำอ้อย ซึ่งทั้งสองได้เข้าไปกระซิบบอกข่าวกับปอ และปอก็ได้ส่งสัญญาณว่า เขารับรู้
“ภายหลังจากที่แจ้งข่าวให้ปอได้ทราบแล้ว ผมได้นำรางวัลชนะเลิศ event of the year ไปมอบให้แก่ คุณดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง เพื่อนำไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด” วินิจ เลิศรัตนชัย กล่าวอย่างภาคภูมิ
ละครเวทีเรื่องดังกล่าวที่ปอรับบทบาทมหาชนกนั้น ได้รับรางวัล Event of the year Award
นักแสดงละครเวทีพระมหาชนกถ่ายภาพร่วมกัน
ภายหลังจากที่ วินิจ เลิศรัตนชัย ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยม ปอ ทฤษฎี ได้ไม่นาน ทางทีมงานของเขาได้เข้ามาแจ้งข่าวร้ายถึงการจากไปของ ปอ ทฤษฎี ซึ่งวินิจกล่าวกับทีมข่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า การจากไปของปอทำให้ตนนึกถึงฉากๆ หนึ่งในการแสดงกลางน้ำพระมหาชนก นั่นก็คือ ฉากที่นางมณีเมขลาอุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิลานคร ซึ่งเปรียบเทียบกับช่วงชีวิตของปอในตอนนี้ได้ว่า ถึงเวลาที่นางมณีเมขลาหมดเรี่ยวแรงที่จะช่วยอุ้มปอ ทฤษฎี นางมณีเมขลาปล่อยมือจากพระเอกภูธรของเราแล้ว...
“จากการที่ได้ร่วมงานกับ ปอ ทฤษฎี เขาคือดารา ดาราที่แตกต่างจากดาราหลายๆ ท่าน ปอไม่ใช่ดาราที่หยิ่ง ปอไม่เรื่องมาก ปอมีวินัย ปอมีความตั้งใจสูงมากๆ สูงจนเกินความคาดหวังที่ผมตั้งไว้ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ความทรงจำที่ผมมีต่อปอจะเป็นความทรงจำท่ีดี และมันจะอยู่ในใจผมตลอดไป ส่วน น้องมะลิ พยานความรักของปอที่ยังคงอยู่ หากทางครอบครัวยินดีให้ผมได้ช่วยเหลือ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะดูแล หรือช่วยเหลือน้องในด้านต่างๆ เสมอ” คำพูดจากหัวใจ วินิจ นักธุรกิจคนดังที่มีต่อครอบครัวสหวงษ์
เนรมิตทะเลสาบสวนเบญจกิติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นเวทีกลางน้ำขนาดใหญ่ 22,000 ตารางเมตร
แคทรียา อิงลิช กล่าวถึงอดีตผู้ร่วมงานผู้ล่วงลับว่า ตนเคยร่วมงานกับ ปอ ทฤษฎี ตั้งแต่ละครเรื่อง “แฝดนะยะ” ซึ่งก็ผ่านมา 6-7 ปีแล้ว จากนั้นพอมาเล่นเรื่องนี้ “พระมหาชนก” ตอนแรกที่ทีมงานติดต่อมาก็รู้สึกว่าได้รับเกียรติที่ยิ่งใหญ่มาก อีกทั้งก็ดีใจที่ได้มาร่วมงานกับ ปอ ทฤษฎี อีกครั้ง ซึ่ง พี่ปอ เขาก็ยังคงเหมือนเดิม อัธยาศัยดี เป็นกันเองเหมือนกับทุกครั้ง เวลาการซ้อมก็จะสนุกสนานเฮฮากันมาก แต่ก็ตั้งใจทำงานกันมากเช่นกัน
“ช่วงแรกๆ ปอ เขาจะมีปัญหาเรื่องการร้องเพลง ช่วงแรกก็จะเกร็งๆ เพราะไม่เคยร้องเพลงแนวคลาสสิกแต่ก็สนุกสนาน โดยเฉพาะตอนฝึกร้องเพลง ก็จะมีการร้องเพี้ยน สูงไปบ้าง ต่ำไปบ้าง อะไรบ้าง ก็ช่วยๆ กันปรับคีย์ เพราะปอเขาตั้งใจกับเรื่องนี้มาก พออยู่บนเวทีที่แสดงจริงก็มีฉากที่สนุกๆ คือ ฉากที่แคทจะต้องอุ้มเขาขึ้นจากน้ำ เขาก็จะมองไม่เห็นแบบทั่วถึง เขาพยายามกระซิบถามแคทแบบไม่ขยับปากว่า... “คนเยอะมั้ย...เต็มมั้ย” แคทก็ตอบว่า “เต็มๆ” เขาก็บอกว่า “ดีๆ”
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557
แสง สี เสียง ดนตรี บทเพลง ฝีมือของ อุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านโสตทัศนูปการ
“สลิงเป็นตัวรับน้ำหนักอยู่แล้ว ที่มีปัญหาคือ สลิงจะหมุน แต่ก็มีเกิดอุบัติเหตุบ้าง โดยตัวของ ปอ หลุดเข้าไปใต้กระโปรง... เราก็ขำๆ กัน” แคทรียา อิงลิช จดจำเหตุการณ์เมื่อปี 2557 ได้เป็นอย่างดี
โดย แคทรียา ได้แสดงความอาลัยในการจากไปของพระเอกนิสัยดีว่า “พอรู้ข่าวว่าพี่ปอเสียชีวิต ก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะตอนที่ป่วยอยู่แคทก็ไปเยี่ยมพี่ปอมา ไม่คิดว่าพี่ปอจะอายุสั้น อย่างไรก็ตาม แคทขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพี่ปอด้วย ตอนนี้ พี่ปอ สบายแล้ว อยู่บนสวรค์แล้ว... แต่ก็ยังรัก คิดถึง และระลึกถึงอยู่เสมอ”
พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์ นำแสดงโดย ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ รับบท พระมหาชนก
การแสดงสมจริง ทั้งช้างและม้าก็ร่วมเข้าฉากด้วย
ญาณี ตราโมท หนึ่งในนักแสดงพระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์ ย้อนเล่าไปเมื่อปี 2557 ว่า หลังจากมีทีมงานติดต่อว่าจะทำละครเวทีเรื่องนี้ ก็ตัดสินใจรับทันทีโดยไม่ต้องบอกว่าตนรับบทอะไร ซึ่งตนได้รู้เพียงว่าทำเรื่องนี้เพื่อถวายแด่ในหลวง และหลังจากทราบว่ารับบทเป็น มหาอำมาตย์ ผู้รับคำสั่งจากเจ้าหญิงสิวลี เพื่อคัดสรรคนมาครองเมืองให้ได้ ซึ่งผู้ที่จะมาครองเมืองก็ได้แก่ ปอ ทฤษฎี ที่จะมารับบทเป็นพระมหาชนก
โดยญานี นักแสดงอาวุโส กล่าวถึงประสบการณ์งานแสดงละครเวทีของตนเองว่า ตนจำได้ว่าแสดงละครตั้งแต่สมัยเรียน ถึงวันนี้ก็กว่า 40 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเล่นละครเวทีทุกปี บางปีก็เล่นทีละเรื่อง แต่บางปีก็มากกว่านั้น ทั้งนี้ งานละครเวที กับ ละครปกติ จะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก เนื่องจากละครเวทีต้องซ้อมกันอย่างหนักหน่วง ห้ามเล่นผิด ฉะนั้นผู้แสดงจะต้องจดจำบทให้ขึ้นใจ ยิ่งละครเพลงก็ยิ่งมีความยาก เพราะต้องจำเนื้อร้องให้ได้ ส่วนการแสดงพระมหาชนก แม้จะเป็นการลิปซิงค์ แต่ก็มีกล้องโคลสอัพที่หน้า คำพูดที่ใช้ก็ไม่ใช่ภาษาพูดทั่วไป นับว่าเป็นงานหินอีกเรื่องหนึ่ง
"ผมเข้าใจว่า ปอ ยังไม่ชินกับละครเวทีเท่าไร คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องแรกๆ ของเขา ตอนที่เข้ามาซ้อมแรกๆ ก็มีเคอะเขิน แต่หลังๆ ก็ปรับตัวได้ เวลาที่เขามาซ้อม เราจะเห็นเลยว่าเขามีความทุ่มเทขนาดไหน ซึ่งทางผู้กำกับก็ได้แนะนำ ปอ ในเรื่องต่างๆ ซึ่งปอก็รับฟังและปฏิบัติตามเป็นอย่างดี” ญาณี จดจำเหตุการณ์เมื่อครั้งร่วมงานกับปอได้ดี
พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์
พระเอกหนุ่มปอ ร่วมถ่ายรูปกับเด็กๆที่มาชมการแสดง
ส่วนฉากที่ยากเย็นสำหรับ ปอ เท่าที่ตนเห็นคือ ฉากที่เมขลาต้องอุ้มปอขึ้นไป ซึ่งปอเป็นคนตัวใหญ่ และที่สำคัญคนที่เล่นบทนี้ต้องกล้าหาญชาญชัย เพราะต้องใช้สลิงดึงขึ้นไปที่สูง หากเป็นตนคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากตนกลัวความสูง ส่วนแคท (แคทรียา อิงลิช รับบท เมขลา) ผู้หญิงคนนี้ก็มีความห้าวหาญ เพราะการขึ้นสลิงนั้นเจ็บมาก สูงมาก ซึ่งทั้ง ปอ และแคทต้องขึ้นแสดงกัน 2 คน พร้อมช่วยประคับประคองกันและกัน เฉพาะแค่ขึ้นไปก็ลำบากแล้ว มิหนำซ้ำต้องทำท่าทางประกอบด้วย ยิ่งสร้างความลำบากมากเข้าไปใหญ่ โดยมีอยู่ฉากหนึ่งที่นางเมขลาต้องอุ้มพระมหาชนก (ปอ) ซึ่งขนาดตัวของ ปอ ถือว่าเป็นคนตัวใหญ่ เพราะฉะนั้นภาพที่ออกมาต้องดูไม่ทุลักทุเล และดูมีอิทธิฤทธิ์ โดยท้ายที่สุดแล้วฉากนี้ก็ออกมาได้อย่างสวยงาม สมจริง
“ปอ มีสปิริตแรงมาก ไม่แสดงท่าทีอิดออด ไม่ได้ยินคำบ่นออกมาจากปากของปอเลย จะให้ลงน้ำกี่ครั้ง ขึ้นๆ ลงๆ กี่ครั้งก็ไม่เคยบ่น จะมีพูดบ้างบางเรื่อง คือ น้ำเหม็น เนื่องจากมีน้ำมันจากฉากต่างๆ และเครื่องกลของเรือ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคกับปอ” นักแสดงอาวุโสกล่าวชื่นชมในตัว ปอ ทฤษฎี
มีการนำช้างจริง มาร่วมแสดงในฉากด้วย
ปอ ทฤษฎี ตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่
ญาณี ตราโมท นักแสดงรุ่นใหญ่กล่าวถึงช่วงซักซ้อมการแสดงว่า ตอนซ้อมแรกๆ ไม่ได้แช่น้ำมากเท่าใดนัก แต่พอใกล้ถึงเวลาเล่นจริงจะมีการซ้อมใหญ่ ซึ่งจุดๆ นี้ต้องลงแช่ในน้ำนานมาก แช่นานกว่าแสดงจริง เพราะต้องซ้อมการแสดงหลายต่อหลายรอบ
“ผมเห็นว่า ปอ ลงน้ำไปแล้วก็ขึ้นมาใหม่ เพราะท่าว่ายน้ำไม่เสมือนจริง ก็ต้องลงน้ำต่อไปอีก ท่าว่ายน้ำแขนขวาได้แล้ว แขนซ้ายยังไม่ได้ ก็ขึ้นๆ ลงๆ น้ำแบบนั้น 7-8 รอบ ครั้งละเกือบชั่วโมง เป็นการทุ่มเทอย่างมาก ผมเองดีใจ และมีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีสปิริตขนาดนี้” ญาณี กล่าวถึงปอด้วยความตื้นตัน
ภาพจาก IG ของปอ หลังจากการขึ้นสลิงซ้อมละครพระมหาชนก
ลงจากเวที เพื่อมาทักทายแฟนคลับทุกวัยที่เข้ามาชมพระมหาชนก
ญาณี ได้ถ่ายทอดเรื่องราวสุดประทับใจที่มีต่อปอว่า อยู่มาวันหนึ่ง วินิจ ปอ และตน ต้องไปประชาสัมพันธ์การแสดงพระมหาชนกที่รายการของ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา ขาไป มีรถปิกอัพมาจากไหนไม่ทราบมารับ ผมก็ไป ขณะที่ ปอ ก็อยู่ที่ช่อง 3 อยู่แล้ว เมื่อถ่ายเสร็จ ขากลับ รถปิกอัพที่มารับ ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว เราก็เอ๊ะ กลับยังไงดี ปอ ก็โผล่มาจากไหนไม่ทราบ “อา...กลับกับผม” ผมก็ถามไปว่า “แล้วปอไปยังไง?” ปอ ก็ตอบว่า “มากับผม”
ญาณี หนึ่งในนักแสดงที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับปอ กล่าวยกย่องปอว่า “ปอ เป็นคนมีน้ำใจมาก เขาอาจจะได้ยินว่า ผมพูดกับใครอยู่ว่าเราจะกลับ เขาจึงอาสา หากเป็นคนทั่วไปเขาก็อาจจะไม่สนใจ ต่างคนต่างมา งั้นก็ตัวใครตัวมันสิ แต่นี่ไม่ใช่ ในใจก็คิดว่าเราโชคดีนะที่ได้เจอคนแบบนี้ คนแบบ ปอ”
“ตอนแรกเป็นห่วงเขามาก ใจหนึ่งก็อยากให้เขากลับมาได้ แต่เมื่อฟังข่าวไปเรื่อยๆ นานวันเข้า ถ้าเขากลับมาแล้วเขาคงทรมาน แต่เมื่ออะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อธรรมชาติตัดสินมาเป็นแบบนี้ ใจก็รู้สึกเสียใจเพราะคุณงามความดีเขาทำมาเยอะเขาไปในที่ที่ดีแน่ แต่ส่วนตัวแล้วก็รู้สึกเสียดาย” จากหัวใจชายผู้หนึ่งที่จะจดจำ ปอ ทฤษฎี คนดีคนนี้ตลอดไป.
ขอบคุณที่มาภาพจาก: ig ปอ ทฤษฎี และ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
